5 เทคนิคการทำ Listing สินค้า Jewelry ให้เสิร์ชติดง่าย

1. รูปภาพสินค้าใส่ได้มากที่สุด 12 ภาพ
ภาพแรกควรใช้เป็นภาพพื้นขาวไม่มีลายน้ำ
– ภาพต่อมาควรเห็นบรรยากาศพร้อมสิ่งของแวดล้อม
– ควรมีภาพ Certificate ของตัวสินค้านั้น ๆ หรือมีภาพประวัติความเป็นมาของแบรนด์
– ควรมีภาพ Size Chart เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ
– และควรมีภาพกล่อง หรือ Packaging 

2. ชื่อสินค้า (Title) ใส่ได้สูงสุด 80 ตัวอักษร โดย 5 คำแรกสำคัญที่สุด โดยระบุดังต่อไปนี้

  1. สินค้าคืออะไร เช่น แหวน (Ring) จี้ (Charm) ต่างหู (Earrings) สร้อยคอมือหรือกำไล (Bracelet) สร้อยคอ (Necklace) แหวนนิ้วเท้า (Toe Ring) จิวเวลรี่สำหรับการสักหรือเจาะ (Piercing)
  2. น้ำหนักพลอย หรือน้ำหนักทอง (Carat)
  3. ชนิดเม็ดพลอย (Cutting & Shape)
  4. สี (Color)
  5. ขนาดหน้าพลอย (mm) 
  6. แบรนด์ของสินค้า (ถ้ามี)


ตัวอย่างเช่น “14K White Gold Diamond Multi Band Cocktail Ring” หรือ “9ct Gold Heart Pendant/Charm – Diamond Cut Pattern – Gift Boxed – 9 ct Gold 375” เป็นต้น

3. การใส่ Items Specifics ควรกรอกให้ละเอียดและถูกต้อง เพราะเป็นช่องที่ Search Engines ทุกยี่ห้อสามารถเข้าถึงได้ และควรเขียนให้สอดคล้องกับ Title จะช่วยให้ติด Search Ranking ได้ดีขึ้น เช่น Style, Type, Shape, Color, Weight, Size, Brand เป็นต้น

4. คำบรรยายเพิ่มเติมของสินค้า  Description สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าร้าน, Certificate ของสินค้า แจ้งเกี่ยวกับ Import Tax ที่ผู้ซื้อต้องชำระเอง
แจ้งนโยบายการรับคืนสินค้าของผู้ขาย เป็นต้น และห้ามใส่ JAVAScript, Active Content, Flash โดยถ้าจะใส่วิดีโอคลิป จะต้องเป็น HTTPS ไป Youtube เท่านั้น

5. ควรทำ Promoted Listing เพื่อช่วยโปรโมท Listing ของสินค้าเพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็นของผู้ซื้อ และดึง Traffic เข้าร้านให้มากยิ่งขึ้นค่ะ

ทั้งนี้การ Promoted Listing จะเสียค่าธรรมเนียมในการโปรโมท ก็ต่อเมื่อสินค้าขายออกภายใน 30 วัน นับจากวันที่ผู้ซื้อกดเข้ามาดู Listing เท่านั้น

เรียนรู้วิธีขายสินค้า Jewelry แบบเจาะลึกได้ที่นี่: https://ebaythailand.co.th/jgw-bd/ 

บทความที่เกี่ยวข้อง